รถรับจ้างถนนกัลปพฤกษ์
รถเฮี๊ยบถนนกัลปพฤกษ์
รถเฮียบรับจ้างถนนกัลปพฤกษ์
รถบรรทุกติดเครนถนนกัลปพฤกษ์
รถเฮี๊ยบรับจ้างถนนกัลปพฤกษ์
รถเฮี๊ยบมือสองถนนกัลปพฤกษ์
รถรับจ้างขนของถนนกัลปพฤกษ์
รถหกล้อติดเครนถนนกัลปพฤกษ์
เช่ารถเฮี๊ยบถนนกัลปพฤกษ์
รถติดเครนถนนกัลปพฤกษ์
บริการให้เช่ารถเครนถนนกัลปพฤกษ์ รถบรรทุกติดเครนทั้งแบบรายวัน และรายเดือน โดยทีมงานมืออาชีพที่ชำนาญงาน ราคาถูก ประเภทรถที่ให้บริการเช่า มีตั้งแต่รถเล็ก-รถใหญ่
รถเครนมีตั้งแต่ขนาด : 10ตัน, 16ตัน , 20 ตัน , 25ตัน , 50ตัน ถบรรทุกติดเครน : 6 ล้อติดเครน3 ตัน , 6 ล้อติดเครน 5 ตัน บริการรถบรรทุกติดเครนรับจ้างรถเฮียบรับจ้าง รถเครนรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง
รับจ้าง ขนส่ง, ขนย้าย, ยกของติดตั้ง, เครื่องจักรขนาดเล็กและขนาดใหญ่, วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆทั่วประเทศ, ยกตู้คอนเทรลเนอร์, ยกบ้านน๊อคดาวน์, ยกตู้ออฟฟิต รถเราทุกคันมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการยก
รถติดเครนถนนกัลปพฤกษ์ เช่น อุปกรณ์รัด , ผ้าใบคลุม, ป็อกเก็ตเทปูน, แท่นยกแผ่นพื้น, กระเช้าติดเครน เป็นต้น เราสร้างผลงานและประสบการณ์และคุณภาพงานของเราไม่เคยเป็นรองใคร
และได้รับความไว้วางใจจาก คุณลูกค้ากลุ่มต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะลูกค้าคือบุคคลที่สำคัญที่สุดสำหรับ
ประวัติรถเฮี๊ยบ
เฮี๊ยบ(Hiab) มาจากยี่ห้อของเครนยี่ห้อแรกๆที่นำเข้ามาใช้ในประเทศไทย และนิสัยของคนไทยจะชอบเรียกชื่อยี่ห้อแทนสิ่งนั้นเหมือนเราเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่านั่นเอง
Hiab คือชื่อประจำสินค้าของบริษัท Hydraliska Industri AB อยู่ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในสวีเดน โดยนายเอริค ผู้ที่ก่อตั้งบริษัทสกี ตั้งแต่ปี 1944 ที่ประยุกต์การทำงานของระบบไฮโดรลิกเข้ามาใช้กับเครื่องของรถบรรทุก ในเวลาเดียวกันที่ประเทศฟินแลนด์ ก็มีพี่น้อง 3 คน ได้พัฒนาเครื่องมือเกี่ยวกับกลไกตัวนี้เช่นกัน 5 ปีหลังจากนั้น ประดิษฐกรรมนี้ได้เริ่มทำการผลิตในประเทศฟินแลนด์ ในเวลาต่อมาได้มีบริษัทเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งจากฟินแลนด์ ปกติประกอบอุตสาหกรรมเกี่ยวกับงานด้านทรัพยากรธรรมชาติ เช่น หินปูน เป็นต้น ได้นำระบบนี้มาพัฒนาเพิ่มเติมในด้านวิศวกรรม เพื่อนำมาใช้ในงานก่อสร้าง และงานป่าไม้ จนแพร่หลายเข้าไปสู่วงการป่าไม้ วงการก่อสร้าง และอุตสาหกรรมทั่วโลก แม้แต่ประเทศรอบข้างของประเทศไทย ก็เรียกติดปากกันว่ารถเฮี๊ยบ เช่นกัน
ปัจจุบันรถเฮี๊ยบ ได้พัฒนาเป็นเครนที่สามารถพับเก็บได้ มีประสิทธิภาพในการยกน้ำหนักได้สูงเมื่อเทียบกับน้ำหนักของตัวเครน มีขนาดกระทัดรัด ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ช่วยเพิ่มเนื้อที่ส่วนที่จะใช้บรรทุกได้มากขึ้น
ขนาดทั่วไปของรถเฮี๊ยบ ที่เราสามารถพบเห็นได้แก่
1. รถเฮี๊ยบหรือรถบรรทุกติดเครน ติดกระเช้าสูง 18 เมตร
2. รถเฮี๊ยบหรือรถบรรทุกติดเครน 3 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
3. รถเฮี๊ยบหรือรถบรรทุกติดเครน 5 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
ซึ่งในที่นี้มีทั้งรถเฮี๊ยบ 6 ล้อ, รถเฮี๊ยบ 10 ล้อ, รถเฮี๊ยบ 12 ล้อ
เหตุผลที่ต้องเลือกรถเครนจากเรา เพราะเราเป็นหนึ่งผู้ให้บริการเช่ารถเครนถนนกัลปพฤกษ์ เหมารายวัน รายเดือน รายปี มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ รถเครน 3ตัน, รถเครน 5ตัน, รถเครน 11ตัน, รถเครน 20ตัน,
รถเครน 25ตัน, รถเครน 35ตัน, รถเครน 45ตัน, รถเครน 50ตัน รถบรรทุกติดเครนถนนกัลปพฤกษ์ มีการรับประกันคุณภาพ มีการตรวจสอบสภาพก่อนที่จะเริ่มงาน หรือต้องการที่จะสั่งอะไหล่เรายินดีรับสั่งอะไหล่
ทุกชนิดทุกประเภทสำหรับรถเครนให้กับท่าน เลือกเช่ารถติดเครนถนนกัลปพฤกษ์ จากเราด้วยความมั่นใจในคุณภาพและการรับประกับคุณภาพ ได้รับความไว้ใจจากลูกค้าว่ารถที่เราได้นำมาให้
บริการมีคุณภาพทุกคันซึ่งสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของลูกค้า และเรายังมีทีมงานมืออาชีพ ที่มากด้วยประสบการณ์ พร้อมใบรับรอง ปจ2 ทุกคัน
วิธีการดูแลรักษารถเครน
รถเครน ถือเป็นเครื่องจักรหรืออุปกรณ์สำคัญของผู้ประกอบการด้านงานก่อสร้าง งานด้านสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม งานโยธาและการขนส่ง รวมถึงการใช้เครนในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
เครนที่นำมาใช้งานมีหลายประเภทและหลายขนาด เช่น เครนติดบรรทุก หรือเฮี๊ยบ ซึ่งเป็นเครนประเภทเคลื่อนที่ได้ และ เครนแบบไม่เคลื่อนที่ อย่างเช่น เครนติดผนังหรือเครนแบบบูมสวิง
ที่ถูกติดตั้งคันบูมไว้กับโครงสร้างหลักของอาคาร รถเครนใหม่หรือเครนเก่าที่ยังอยู่ในสภาพพดี จึงต้องมีการบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
วิธีการดูแลรักษารถเครน
เครนหรือปั้นจั่น เป็นเครื่องจักรกลที่ต้องมีการใช้งานอยู่เกือบตลอดเวลา การบำรุงดูแลรักษาอย่างถูกวิธี นอกจากทำให้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรกลอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอแล้ว
การบำรุงดูแลอย่างสม่ำเสมอยังถือเป็นการตรวจเช็คสภาพเครน หากพบปัญหาก็สามารถทำการซ่อมบำรุงหรือปรับเปลี่ยนอะไหล่เครนใหม่ได้ทันทีโดยไม่เสียเวลาทำงาน นอกจากนั้นการ
บำรุงรักษาเครนให้อยู่ในสภาพดี ยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากความผิดพลาดในการทำงานได้เป็นอย่างดี สำหรับการดูแลรักษารถเครนทำได้หลายวิธี ดังนี้
1.ตรวจสอบดูแลรักษาสภาพสายสลิงของรถเครน ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ลักษณะของสลิงที่พร้อมใช้งานและอยู่ในสภาพดี ต้องไม่บิดงอ สภาพลวดสลิงไม่ฟองฟู ไม่แตกเป็นสนิมหรือเป็นขุย
สามารถตรวจสอบได้โดยใช้ผ้ารูดไปตามเส้นสลิงแล้วสังเกตลวดสลิงว่ามีสภาพหรือลักษณะตามที่กล่าวมาหรือไม่ หากพบว่ามีการชำรุดเสียหายต้องจัดหาอะไหล่เครนมาปรับเปลี่ยนเพื่อ
ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
2.ดูแลตรวจสอบดูแลรักษาสภาพแกนม้วนสายสลิงที่อยู่ภายในรถเครน แกนม้วนสายสลิงต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีรอยแตกร้าว ร่องสลิงไม่บิ่นไม่มีคมหรือมีสิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่ภายใน
ลวดสลิงต้องเรียงเป็นระเบียบ และพร้อมสำหรับใช้งาน
3.ดูแลตรวจสอบรักษาสภาพตะขอที่เกี่ยวระหว่างสายสลิงว่ามีรอยสึกหรือรอยแตกร้าวหรือไม่ ตรวจสอบการทำงานของชุดตะขอว่าสามารถหมุนรอบได้สะดวก มีความคล่องตัวหรือไม่
อาจใช้สารหล่อลื่นใส่ลงในตะขอทุกครั้งเมื่อมีการใช้งาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในระหว่างใช้งานสายสลิง
4.ตรวจสอบสภาพมอเตอร์ของรถเครน ทั้งการยกขึ้น-ลง, การบิดไปทางซ้าย-ขวา, การเดินหน้า-ถอยหลัง โดยจะต้องมีการใช้ที่เป็นปกติ
5.ตรวจสอบชุดมอเตอร์ขึ้น-ลง ยกรอบช้าและเร็ว การบิดไปทางซ้าย ทางขวา การเดินหน้า และถอยหลัง การตรวจสอบสภาพมอเตอร์ ต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบทั้งรถเครนใหม่
และเครนเก่าที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
6.ตรวจสอบและดูแลรักษาสภาพสวิตซ์ไฟในทุกระบบของรถเครน โดยการกดสวิตซ์ขึ้นและลงแช่ไว้จนกว่าระบบจะตัดการทำงาน
7.ตรวจสอบและดูแลการทำงานของระบบเบรกในทุกๆฟังก์ชั่นของรถเครน ตรวจเช็คสภาพเบรคว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกและผ้าเบรกทุกครั้ง
ภายในระยะเวลา 5 ปีของการใช้งาน ซึ่งตัวแทนจำหน่ายรถเครน มักจะให้คำแนะนำอยู่แล้วเมื่อซื้อรถเครนใหม่
8.ตรวจสอบและดูแลชุดลูกยางกันชนภายในรถเครน ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตก หัก หรือบิ่นปรากฏให้เห็น หากมีการชำรุดควรเปลี่ยนอะไหล่เครนใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในขณะทำงาน
9.ตรวจสอบและดูแลชุดสายไฟในทุกระบบการทำงานให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน ไม่มีรอยถลอกหรือฉีกขาด หากสายไฟมีรอยชำรุดควรซ่อมหรือเปลี่ยนสายไฟให้เรียบร้อย
10.ตรวจสอบและดูแลสัญญานเสียง สัญญาณแสง และไฟหมุนภายในรถเครน ว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่
11.ตรวจสอบและดูแล อุปกรณ์เสริมทุกชนิดในรถเครน ทั้ง Shackle ลวดสลิง และอุปกรณ์อื่นๆ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากพบว่าอุปกรณ์ใดชำรุดเสียหายทำการเปลี่ยน
อะไหล่เครนทันที เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
12.ตรวจสอบสภาพชุดล้อขับเคลื่อน ทดสอบวิ่งฟังเสียงลูกปืนล้อว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่
13.ตรวจสอบและดูแลชุดลูกยางกันชนว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานหรือไม่ ควรตรวจสอบทั้งรถรถเครนใหม่และเครนที่ใช้งานมานานแต่ยังอยู่ในสภาพร้อมใช้งาน
14.มีการบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนอะไหล่เครน รวมทั้งบันทึกข้อมูลการใช้งานเพื่อวิเคราะห์กรณีเกิดปัญหาหรือมีข้อผิดพลาดระหว่างการทำงาน
15.มีการเก็บรักษาดูแลอุปกรณ์และอะไหล่เครนอย่างเป็นระบบ โดยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจและได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ในการดูแลโดยเฉพาะ
16.มีการตรวจสอบและดูแลรถเครนหรือปั้นจั่น โดยเลือกใช้บริการตรวจสอบสภาพของบริษัทเซอร์วิสที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงโดยเฉพาะ หากพบปัญหาอุปกรณ์ชำรุดเสียหายก็สามารถ
จัดหาอะไหล่เครนปรับเปลี่ยนให้ได้
ถนนกัลปพฤกษ์ (อังกฤษ: Thanon Kanlapaphruek) หรือ ทางหลวงชนบท กท.1001 เป็นเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ฝั่งธนบุรี
กรุงเทพมหานคร โดยเป็นถนนคอนกรีตขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนกาญจนาภิเษก
เริ่มต้นจากถนนราชพฤกษ์ที่ทางแยกต่างระดับสวนเลียบ ระหว่างพื้นที่แขวงบางค้อ (เขตจอมทอง) กับแขวงปากคลองภาษีเจริญ (เขตภาษีเจริญ)
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในพื้นที่แขวงบางค้อ ข้ามคลองวัดโคนอนเข้าพื้นที่แขวงบางหว้า (เขตภาษีเจริญ) ข้ามคลองบางหว้าเข้าพื้นที่แขวงบางขุนเทียน (เขตจอมทอง)
ข้ามคลองสวนหลวงเข้าแขวงบางหว้า ข้ามคลองรางบัวเข้าแขวงบางขุนเทียน ตัดกับถนนกำนันแม้นและข้ามคลองวัดสิงห์เข้าแขวงบางหว้าอีกครั้งหนึ่ง แล้วเลียบไปกับคลองบางโคลัด
[บางส่วนซ้อนทับแนวคลองจึงเข้าไปในพื้นที่แขวงคลองบางพราน (เขตบางบอน) ด้วย] ข้ามคลองพระยาราชมนตรีเข้าพื้นที่แขวงบางแค (เขตบางแค) ก่อนตัดกับถนนบางแค
จากนั้นจึงเริ่มแยกออกจากแนวคลองไปทางทิศตะวันตก จนบรรจบกับถนนกาญจนาภิเษกที่ทางแยกต่างระดับบางโคลัด ระหว่างพื้นที่แขวงบางแคกับแขวงหลักสอง (เขตบางแค)